กองบรรณาธิการ "ดอกเบี้ยธุรกิจ" ขอยกย่องม็อบเสื้อแดง คนต้านรัฐประหาร เป็นบุคคลแห่งปี 2551 หรือ MAN (MOB) OF THE YEAR 2008 "....ด้วยเหตุที่เป็นการรวมตัวชุมนุมของผู้คนหลายหมื่น ถึงร่วมแสนคนหลายครั้งหลายหนในปีที่ผ่านมาอย่างสงบเรียบร้อยปราศจากอาวุธ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เผด็จการ ปกป้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง...."ตลอดปี 2551 ของเมืองไทยเป็นปีแห่งการต่อสู้เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และการต่อสู้ระหว่างกลุ่มคนที่เอา/ไม่เอาทักษิณ ภายหลังการคืนอำนาจประชาชนของ คปค.-คมช. ที่เข้ายึดอำนาจ/ปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลทักษิณเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแม่บทกฎหมายการเมืองการปกครองที่ดีที่สุด ก่อนจะเปิดปฏิบัติการล้างบาง ระบอบทักษิณ ไม่ให้กลับมามีอำนาจทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ที่มุ่งทำลายพรรคการเมือง/นักการเมือง หวังให้การเมืองไทยถอยหลังลงคลองย้อนกลับไปสู่ยุคก่อนหน้าปี 2540 ที่รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค ล้มลุกคลุกคลานไร้เสถียรภาพ
ในการต่อสู้เพื่อสร้างฐานมวลชนระดับล่างรองรับสนับสนุนการเคลื่อนไหว เมื่อเกิดม็อบฯคนเสื้อเหลือง เข้ายึดถนนราชดำเนิน ทำเนียบรัฐบาล ม็อบดาวกระจายบานปลายจนถึงการปิดล้อมหน้ารัฐสภา ไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายตามกฎหมายก่อนทำหน้าที่ ก่อนจะลงเอยด้วยความอเนจอนาถของชาติบ้านเมืองเมื่อเข้าทำการยึด/ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองเพื่อใช้เป็นตัวประกันยื่นคำขาดให้ รัฐบาลนอมินีทักษิณ ลาออกเปิดทางให้เปลี่ยนขั้วอำนาจการเมืองสถานเดียวนั้น
"...คนไทยในฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดและความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาได้รวมตัวกันเป็น ม็อบฯคนเสื้อแดง..."
ชุมนุมแสดงพลังบริสุทธิ์ให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นแบบอย่างที่ดี เรียกศรัทธาความน่าเชื่อถือจากคนส่วนใหญ่ให้เข้าร่วมสนับสนุน กดดัน/ดักคอไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำปฏิวัติรัฐประหาร
ปรากฎการณ์คนจำนวนมาก และใส่เสื้อสีแดงเหมือนๆกันเดินทางมาเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อสำแดงพลังปกป้องการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รูปแบบการเมืองการปกครองที่ได้รับการยอมรับจากโลกว่าดีที่สุดในปัจจุบัน อีกการแสดงเจตนาอุดมการณ์การต่อต้านเผด็จการ การปฏิวัติรัฐประหารของคนในเครื่องแบบที่มีอาวุธและกำลังในมือด้วยสองมือเปล่าปราศจากอาวุธในการต่อสู้/ต่อต้าน เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างมาก เนื่องเพราะไม่ต้องการเห็น เมืองไทย ต้องล้มลุกคลุกคลานครั้งแล้วครั้งเล่า ระบบการเมืองการปกครองอ่อนแอ มีรัฐบาลไร้เสถียรภาพกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ ถูกต่างชาติมองว่าเป็นคนป่าเถื่อน ไม่รู้จักรูปแบบการเมืองการปกครองที่ดีงาม มีจารีตประเพณีวัฒนธรรม
การปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพิ่งจะผ่านพ้นไปหมาดๆ ภายหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณ และนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามด้วยการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ได้ รัฐบาลสมัคร ที่มาจากการเลือกตั้งแต่กลับถูก ม็อบฯคนเสื้อเหลือง ชุมนุมประท้วงยื่นคำขาดขับไล่อย่างไร้เหตุผลกลายเป็นวงจร..ม็อบฯประท้วงขับไล่ เกิดปฏิวัติรัฐประหาร เลือกตั้งใหม่ เกิดซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่าบนถนนการเมืองการปกครองไทยในระบอบประชาธิปไตยมองไม่เห็นซึ่งอนาคตความเจริญก้าวหน้านับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นเวลากว่า76 ปีที่ไปไม่ถึงไหนไกลกับใครเขา ทำให้เมืองไทยไม่สามารถจะแข่งกับใครได้อย่างเต็มที่เมื่อต้องสะดุดหกล้มนับครั้งไม่ถ้วน
การชุมนุมของ ม็อบฯคนเสื้อแดง เรือนหมื่นร่วมแสนคนนับจากที่ธันเดอร์โดม/เมืองทองธานี สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน/หัวหมาก ลานคนเมือง/หน้าที่ทำการกทม. และสนามศุภชลาศัย/ปทุมวัน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปีต่างเริ่มต้นและลงเอยด้วยดีภายใต้กฎหมายบ้านเมือง ถือเป็นเรื่องน่ายกย่องชื่นชม นอกเหนือจากสปิริตจิตวิญญาณของคนรักประชาธิปไตย มีเป้าหมายต่อต้านเผด็จการ ซึ่งกองบรรณาธิการ ดอกเบี้ยธุรกิจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกียรติยศบุรุษแห่งปี 2551 หรือ MAN OF THE YEAR 2008 ที่ ม็อบฯคนเสื้อแดง ได้รับนี้จะเป็นกำลังใจให้ยืนหยัดทำความดีมีอุดมการณ์กันต่อไป ไม่ออกนอกลู่นอกทางทำให้คนเสื่อมศรัทธาจนไม่กล้าใส่เสื้อแดงเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง
โดยเฉพาะใน ปีใหม่ 2552 นี้คาดว่าจะเป็นปีที่ม็อบฯคนเสื้อแดงต้องออกโรงเคลื่อนไหวแสดงพลังคนรักประชาธิปไตยมากกว่าปีที่ผ่านมา ศรัทธาบารมีความน่าเชื่อถือในสังคมการเมืองไทยจะมีมากขึ้นตามไปด้วยก็ต่อเมื่อไม่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และจะทำให้ ม็อบฯ ไร้เส้น นี้รอดพ้นจากการถูกปราบปรามทำลายล้างจนไม่เหลือเชื้อไฟ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น