![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyAwPqOkzgxp2E6O0NKCTZRCZR-ndVSfQxCx-zagSXgkPVovd6iFg6JJVhymeVc3gmWr7PUKlIbxiVfA62OMAaKC_7m8Jm6c0pvJr31VUCLvKnzLRoRrkhpvLkbfThUb7Fb-t-9x7D3LJ1/s320/untitledking.jpg)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เอเชียไทม์ส และdrudge.com20
กุมภาพันธ์ 2552
สื่อฝรั่งวิจารณ์เหตุฮิลลารี่ข้ามหัวไทยไปอินโดนีเซีย เหตุรังเกียจระบอบปกครองเทวดา หันมาต่อต้านประชาธิปไตยหนักข้อ เอเชียไทม์สเรียกร้องโอบาม่ายึดถือคำมั่นปกป้องประชาธิปไตย ด้วยการลดความสัมพันธ์กับรัฐบาลเทพประทานที่กองทัพเผด็จการหนุนอยู่ฉากหลัง ระบุการที่รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯเลือกเยือนอินโดนีเซีย เป็นสัญญาณของการผูกไมตรีกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดรายใหม่แทนมิตรเก่าในยุคสงครามเย็นอย่างไทย
ขณะเดียวกันShawn W. Crispin บรรณาธิการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชียไทม์ส ได้เขียนบทความลงเอเชียไทม์สในเรื่อง"When allies drift apart"เสนอให้ลดความสัมพันธ์กับประเทศไทยลง โดยเขาชี้ว่าแม้ไทยเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯในยุคสงครามเย็น และดูจะให้ความร่วมมือกับสงครามต่อต้านการก่อการร้ายอยู่บ้าง แต่ระยะหลังก็ดูจะหันเหไปพึ่งอิทธิพลจีนมากกว่า ไทยดูจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯน้อยลงทั้งด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การละเมิดลิขสิทธิ์ การค้ามนุษย์ ขณะที่สหรัฐฯยังสนับสนุนไทยทั้งการทหาร ความมั่นคง และการค้าอย่างต่อเนื่อง
การที่ล่าสุดนางฮิลลารี่ คลินตันไปเยือนอินโดนีเซีย เป็นประเทศแรก นอกจากเป็นสัญลักษณ์การไปเยี่ยมบ้านเก่าในวัยเด็กของประธนานาธิบดีโอบาม่าแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่า เพราะอินโดนีเซียให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯด้วยดีหลายเรื่อง รวมทั้งพัฒนาประชาธิปไตยไปในทิศทางที่ก้าวหน้าขึ้น ผิดกับไทยซึ่งกองทัพไทยที่สหรัฐให้การสนับสนุนอยู่อย่างยาวนานเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงและทำลายประชาธิปไตยลง รวมทั้งหนุนหลังรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไทย ดังนั้นสหรัฐฯควรเลือกการเพิ่มความสัมพันธ์กับพันธมิตรใหม่อย่างอินโดนีเซีย และควรลดความสัมพันธ์กับไทยลงมา ที่มีประโยชน์เพียงเป็นการหวังใช้สนามบินทหารอู่ตะเภาของไทยเป็นฐานของการส่งกำลังทางอากาศในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น
บทความระบุว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐประหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลเลือกตั้งของทักษิณในปี2549นั้นดูเหมือนวอชิงตันจะขยิบตาเห็นชอบด้วย เพราะวอชิงตันมองว่ารัฐบาลทักษิณเอนเอียงไปทางฝ่ายจีน แต่กองทัพของไทยก็กำลังเข้าครอบงำลดทอนทำลายประชาธิปไตยในไทยลง โดยหวังจะให้การสืบทอดราชสมบัติเป็นไปโดยราบรื่น
หากสถานการณ์ยังดำเนินไปเช่นนี้ ก็สมควรแล้วหรือยังที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องทบทวนด้วยการลดความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทยลงจากพันธมิตรที่ใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำถึงสิ่งที่ประธานาธิบดีโอบาม่าได้กล่าวให้คำมั่นว่าจะให้คุณค่าในการปกป้องประชาธิปไตย
ที่มา http://thaienews.blogspot.com/2009/02/blog-post_20.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น