วิจารณ์ลั่นกระดานข่าวการเมือง ตัดข่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลฉับจนนักข่าวยังอ้าปากค้าง

ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 มีนาคม 2552

กระดานข่าวการเมืองชื่อดัง "พันทิปดอตคอม" ขึ้นกระทู้ฮอต "ดูข่าวช่อง 9 หรือปล่าว นักข่าวยังเซ็งเลย" เผยชัดมีสมุนอำมาตย์นั่งคุมห้องข่าว สั่งนำเสนอแต่ข่าวเข้าข้างรัฐบาล พอมีข่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจกลับถูกสั่งตัดฉับจนผู้ประกาศข่าวยังอ้าปากค้างด้วยความงง

กระทู้ฮอตประจำสัปดาห์นี้ของเว็บไซต์พันทิปดอตคอมห้องราชดำเนิน ซึ่งถือเป็นกระดานข่าวการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ข่าว 9 อสมท. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลา 19.08 -19.10 น. ขณะที่กำลังเสนอข่าวการเตรียมการของส.ส.พรรคเพื่อไทยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อยู่ดีๆ กลับถูกตัดกลางคันแล้วเปลี่ยนไปเป็นข่าวนายอภิสิทธิ์ไปเยือนอังกฤษโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย สร้างความงุงงงให้กับผู้ชมทางบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมไปถึงผู้ประกาศข่าวสาวที่กำลังอ่านข่าวอยู่ด้วย

"เมื่อกี้นั่งดูโทรทัศน์พร้อมกับนั่งกินข้าวกับครอบครัว มีข่าวการเมืองของฟากรัฐบาลโจมตีคุณทักษิณอย่างเมามัน ผมบอกกับเมียว่า อะไรวะมีแต่(ข่าว)ฝั่งรัฐบาล ทันใดนั้นข่าวการยื่นอภิปรายถอดถอน 5 รัฐมนตรีของฝ่ายค้านก็ออกมาได้ไม่ถึงนาที ก็ตัดกลางข่าว ทันที นักข่าวยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็ตัดไป ภารกิจนายกฯไปอังกฤษ นักข่าวยังงง ผมก็งง เมียก็งง แม่ก็งง พ่อก็งง มันจะไมให้พื้นที่ข่าวของฝ่ายค้านเลยหรืออย่างไร ผมเชื่อแล้วครับคุณไม่ได้แทรกแซงสื่อ" เจ้าของกระทู้แนะนำประจำสัปดาห์ คุณ davinco กล่าว

"ตอนนี้สื่อมวลชนที่อยู่ในกำกับของรัฐทำงานค่อนข้างลำบาก น่าเห็นใจพวกเค้านะจ๊ะ จะรายงานข่าวครบถ้วนทุกด้าน ก็จะเป็นการประจานรัฐบาล เดี๋ยวเสี่ยเตี้ยจะเต้นสั่งย้าย+เด้งเจ้าหน้าที่ ครั้นจะรายงานแต่ข่าวฟากรัฐบาล ไม่เสนอของฝ่ายค้าน ชาวบ้านเขาก็ชักเบื่อ รำคาญ เพราะมีอยู่ไม่กี่ข่าว วนเวียน-เวียนวน เปิดดูกี่ช่อง จ้องดูกี่สถานี มันก็ซ้ำซากอยู่แค่นั้น เทพเทือกจ้อว่ายังงั้น เทพไทแถกว่ายังงี้ อภิสิทธิ์จีบปากพูดยังงู้น กรณ์พล่ามว่ายังโง้น มันซ้ำซากจำเจ น่าเบื่อมากๆ แต่เชื่อพรรคเทพประทานเถอะ เตี้ยส้นตึก เค้าไม่ได้แทรกแซงสื่อเลย จริงๆนะจ๊ะ คริ คริ" สมาชิกเว็บบอร์ด คุณ hayo แสดงความคิดเห็น

คลิปวีดีโอและภาพนิ่ง

ท่านสามารถดูคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งถูกบันทึกโดยคุณJump Master ได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

http://thaienews.blogspot.com/2009/03/blog-post_17.html